อย่าประพฤติตามอย่างชาวโลกและการวินิจฉัยถูกหรือผิด
    สมาชิกของคริสตจักรมีนิสัยรักโลก  
เป็นปัญหาที่อันตรายซึ่งคริสตจักรเผชิญ  คริสเตียนเป็นจำนวนมากดูดซึมเอาความรักโลกเข้าไปเป็นชีวิตจิตใจเส้นแบ่งระหว่างคริสตจักรกับโลกถูกกลบไปแล้ว  
มองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างชาวโลกกับคริสเตียน  
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราทั้งหลายมีหน้าที่รับผิดชอบที่จะสอนให้คริสเตียนรู้ถึงอันตรายของความชั่วดังกล่าว  
และเพื่อให้รู้จุดจบของความชั่วดังกล่าวจะเป็นอย่างไร
1. คำจำกัดความของคำว่า "คริสตจักร"
    คำว่า "คริสตจักร" มาจากภาษากรีกว่า "เอคคลัสเซีย"  
ซึ่งแปลว่า "ถูกเรียกออกมา"  เพราะฉะนั้นสมาชิกของคริสตจักรจึงมีชื่อว่า "สิทธชน"  
1โกรินโธ 1.2 "คำนับมายังคริสตจักรของพระเจ้าซึ่งอยู่ที่เมืองโกรินโธ, 
คือเหล่าสมาชิกผู้ที่ถวายตัวไว้แล้วในพระเยซูคริสต์, และซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกให้เป็นสิทธิชน, 
กับทั้งคนทั้งปวงในทุกตำบลที่อธิษฐานออกพระนามพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาและของเราด้วย"  
คำว่า "สิทธชน" หมายถึง "ผู้ที่ถูกแยกออกมา"  เพราะเหตุนี้เอง คริสตจักรจึง 
"ไม่ใช่เป็นฝ่ายโลกนี้"  ถึงแม้จะอยู่ในโลกนี้ก็ตาม
    โยฮัน 18.36 "พระเยซูทรงตอบว่า “แผ่นดินของเรามิได้เป็นอย่างแผ่นดินโลกนี้ 
ถ้าแผ่นดินของเราเป็นอย่างแผ่นดินโลกนี้. 
พวกของเราก็คงได้ต่อสู้ไม่ให้เราตกในมือของพวกยูดาย 
แต่บัดนี้แผ่นดินของเราหาได้เป็นอย่างนั้นไม่"
    คริสเตียนทั้งหลายได้ละทิ้งโลกมาแล้ว  
เขาไม่ควรมีชีวิตเหมือนชาวโลกอย่างหวังว่าการมีชีวิตแบบชาวคริสเตียนแล้วจะไม่มีบาป  
โรม 12.9 "จงให้ความรักปราศจากมารยา จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว 
จงยึดถือสิ่งที่ดีไว้"  (1เธซะโลนิเก 5.22)
2. ศึกษาข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องนี้
    (1) โรม 12.2 
"อย่าประพฤติตามอย่างชาวโลกนี้ แต่ว่าจงเปลี่ยนนิสสัยเสียใหม่, 
เพื่อท่านทั้งหลายจะได้สังเกตรู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า ว่าอะไรดี 
อะไรเป็นที่ชอบ และอะไรยอดเยี่ยม"  คำว่า "โลก" จากข้อนี้มีความหมายว่า 
"สมัย" เพราะฉะนั้นเปาโลเรียกร้องมิให้เราประพฤติ, เลียนแบบ, ทำตามสมัยนี้ 
แม้กระนั้นก็ตาม ยังมีบางคนมีมาตรฐานศีลธรรมตามสมัยนิยมของคนโลกนี้  โปรดอ่าน 
เอ็กโซโด 23.2 " 
เจ้าอย่าได้กระทำการชั่วตามอย่างคนส่วนมากที่เขากระทำกันนั้นเลย"  
(มัดธาย 7.13-14)  ยิ่งกว่านั้นคำว่า "เปลี่ยนนิสัยเสียใหม่"  มาจากภาษากรีก 
จากคำว่า "เมทามอร์โฟซิส" 
เหมือนกับตัวหนอนผีเสื้อที่น่าเกลียดเปลี่ยนเป็นผีเสื้อที่สวยงาม  คริสเตียนจะต้องทิ้งมนุษย์เก่าซึ่งอยู่ฝ่ายวัตถุนิยมและฝ่ายโลกนี้เปลี่ยนให้เป็นเหมือนกับพระฉายของพระเยซู 
2โกรินโธ 3.18  ถูกแล้ว  คริสเตียนไม่ควรประพฤติตนเหมือนอย่างชาวโลกนี้ในเรื่องการใช้วาจา,  
ในเรื่องการแต่งกาย, ในเรื่องการเล่น, การพักผ่อนหย่อนใจ การเหล่านี้ควรเป็นอีกแบบของคริสเตียนซึ่งไม่เหมือนกับชาวโลก
    (2) 2โกรินโธ 6.17-18 " 
เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงตรัสว่า, “เจ้าจงออกมาจากท่ามกลางเขาเหล่านั้น, 
และจงอยู่ต่างหาก อย่าถูกต้องสิ่งซึ่งมลทิน 
และเราจะรับเจ้าทั้งหลายไว้.  เราจะเป็นบิดาของเจ้าทั้งหลาย, 
และเจ้าตั้งหลายจะเป็นบุตรชายบุตรหญิงของเรา” 
พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์เดชทุกประการได้ตรัสดังนั้น"  ข้อความนี้สอนว่า
        (ก) 
ออกมาจากท่ามกลางชาวโลก
        (ข) 
เป็นคำเรียกร้องจากพระเจ้า
        (ค) 
คำเรียกร้องแยกตนเองอยู่ต่างหากให้เด็ดขาด
        (ง) 
พระเจ้าจะรับเราทั้งหลาย
    (3) เอเฟโซ 5.11 
"และอย่าเข้าส่วนกับกิจการของความมืดที่ไร้ผล, 
แต่จงให้กิจการนั้นปรากฏเปิดเผยดีกว่า" คำว่า "เข้าส่วนกับ" หมายถึง 
การเข้าร่วมหัวจมท้ายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โปรดสังเกตคำว่า "อย่า" 
ในข้อพระคัมภีร์แสดงว่าอัครสาวกเปโลห้ามมิให้เรามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผิด  
เราควรพิสูจน์ดูว่าสิ่งนั้นเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือเปล่า  
และควรให้การนั้นเป็นที่เปิดเผยดีกว่าแสดงว่าเราไม่ควรเพียงแต่ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย 
แต่เราควรพิสูจน์ดูด้วย
    (4) เอเฟโซ 5.25-27 " 
ฝ่ายสามีจงรักภรรยาของตน, 
เหมือนอย่างพระคริสต์ได้ทรงรักคริสตจักรด้วย, 
และได้ทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักรนั้น  
เพื่อจะได้ทรงกันคริสตจักรนั้นไว้โดยที่ได้ทรงชำระด้วยน้ำและพระคำ,  
เพื่อพระองค์จะได้คริสตจักรซึ่งมีสง่าราศี, ไม่มีตำหนิ, รอยย่น, 
หรือมลทินอื่นๆ อย่างหนึ่งอย่างใดเลย, แต่บริสุทธิ์และปราศจากตำหนิ"
    
ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้สอนเกี่ยวกับการรักษาความบริสุทธิ์ของคริสตจักร  
ถ้าความบริสุทธิ์ของคริสตจักรถูกทำลายไป  
คริสตจักรจะไม่มีความหมายคริสตจักรเป็นสถาบันที่มีสง่าราศี  
ไม่มีความด่างพร้อย  ความนิยมชมชอบต่อโลกทำให้คริสตจักรมีจุดด่างพร้อย
3. ตัวอย่างของคนที่ฝักใฝ่เรื่องโลก
    (1) เดมา ในฟิเลโมน 1.24 
"และมาระโกกับอาริศตาโค และเดมา และลูกา 
ผู้เป็นเพื่อนร่วมงานด้วยกันกับข้าพเจ้า ก็ฝากคำคำนับมายังท่านด้วย"  
เดมาเคยเป็นเพื่อนร่วมทำการกับอัครสาวกเปาโล  เมื่ออ่านต่อมาในโกโลซาย 4.14  
"ลูกาผู้เป็นแพทย์ที่รักกับเดมาฝากคำคำนับมายังพวกท่าน"  เปาโลได้กล่าวเพียงแต่ชื่อของเขา  
ประการที่สามซึ่งเปาโลกล่าวถึงเดมาเป็นครั้งสุดท้ายว่า เดมาได้ละทิ้งเปาโลเสียแล้ว  
ช่างเป็นกราฟที่แสดงให้เห็นสถิติความก้าวหน้าของความบาปที่ทำกิจในชีวิตของเดมา  
ปัญหาคือว่าทำไมเดมาละทิ้งเปาโล คำตอบก็คือ เดมามีความผูกพันรักใคร่กับโลกนี้
    (2) ลูกสาวของโลต  เยเนซิศ 19.36 
"ดังนี้แหละบุตรสาวของโลตจึงได้มีท้องกับบิดาของตนทั้งสองคน"  โลตได้พาครอบครัวไปอาศัย  
อยู่ในเมืองซะโดมแต่ไม่แค่นั้นโลตปล่อยให้ซะโดมอาศัยอยู่ในเขา  
ผลของการกระทำย่อมประจักษ์แจ้งเป็นอย่างดี
4. ความรักโลกแสดงออกในคริสตจักรเป็นลักษณะแบบไหน?
    (1) คริสเตียนบางคนมีการคบค้าสมาคมกับคนในโลก  
แทนที่จะคบกับพวกคริสเตียนด้วยกันเอง  1โกรินโธ 15.33 
"ท่านทั้งหลายอย่าลวงตนเองเลย 
การคบค้าสมาคมกับคนชั่วนั้นย่อมทำให้นิสัยดีกลับชั่วไปด้วย"  
โปรดสังเกตดูอิทธิพลของชาวซะโดมที่มีต่อครอบครัวของโลต  
และพิจารณาดูเรื่องราวที่อัครสาวกเปโตรปฏิเสธพระเยซู
    (2) 
การทำให้ความสนใจฝ่ายโลกเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิต  
เรื่องอื่นเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ  
เราไม่ควรทำให้ความอยากร่ำรวยเป็นเป้าประสงค์ในชีวิต
    มัดธาย 6.19-21 
"อย่าส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในโลก, 
ที่ตัวหนอนและสนิมอาจทำลายเสียได้, และที่ขโมยอาจขุดช่องล้วงลักเอาไปได้.  
แต่จงส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์, ที่หนอนหรือสนิมทำลายเสียไม่ได้, 
และที่ไม่มีขะโมยขุดช่องล้วงลักเอาไปได้   เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน, ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย"
    โกโลซาย 3.1 
"ถ้าเมื่อท่านทั้งหลายถูกชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว, 
ก็จงแสวงหาสิ่งเหล่านั้นซึ่งอยู่เบื้องบน, ที่พระคริสต์สถิต, 
คือประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า"  
เราควรปฏิบัติตามคำสั่งสอน  ในมัดธาย 6.33 
"แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน, 
แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้"  ในมัดธาย 
16.24-26 "ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชะนะตัวเองและรับกางเขนของตนแบกตามเรามา   ด้วยว่าผู้ใดจะใคร่เอาชีวิตของตนรอด, ผู้นั้นจะเสียชีวิต 
แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เรา ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด   เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก, 
แต่ต้องเสียชีวิตของตนจะเป็นประโยชน์อะไร? 
หรือใครจะเอาอะไรมาแลกกับชีวิตของตน?"  แสดงให้เห็นว่า 
การสนใจฝ่ายเนื้อหนังเป็นเป้าประสงค์ของชีวิต เป็นเรื่องโง่  โปรดดู 1ติโมเธียว 
6.7 "เพราะว่าเราเข้ามาในโลกไม่ได้เอาอะไรมาฉันใด, 
เราไปจากโลกก็เอาอะไรไปไม่ได้ฉันนั้น"
    (3) การหย่าร้าง  โปรดศึกษา มัดธาย 19.9 
"ฝ่ายเราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดอย่าภรรยาของตนเพราะเหตุต่างๆ 
เว้นแต่ผิดกับชายอื่น แล้วไปมีภรรยาใหม่, ก็ผิดประเวณี 
(และผู้ใดรับหญิงที่อย่าแล้วนั้นมาเป็นภรรยา, ก็ผิดประเวณีด้วย)"
    โรม 7.2-3 "เพราะว่าผู้หญิงที่สามียังมีชีวิตอยู่นั้นต้องอยู่ในกฎประเพณีสามีภรรยา 
แต่ถ้าสามีตายแล้ว, ผู้หญิงนั้นจึงพ้นจากกฎนั้น   เหตุฉะนั้นเมื่อสามียังมีชีวิตอยู่, 
ถ้าผู้หญิงนั้นไปหลบนอนกับชายอื่น, 
เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงล่วงประเวณี แต่ว่าถ้าสามีตายแล้ว, 
เขาก็พ้นจากกฎประเพณีสามีภรรยานั้น 
แม้เขาไปแต่งงานกับชายอื่นก็หาผิดประเวณีไม่"  
เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าตลอดกาลที่จะให้มนุษย์อยู่กินเป็นสามีภรรยาเดียวชั่วชีวิต
    มาลาคี 2.16 
"พระยะโฮวาจอมพลโยธาตรัสว่า, “เราเป็นผู้เกลียดการหย่าร้างกัน,” 
พระยะโฮวาจอมพลโยธาตรัสว่า, “เราชังคนข่มเหงเมีย. 
เจ้าทั้งหลายจงระวังจิตต์ใจของเจ้าไว้ให้ดี, 
และอย่าได้ประพฤติไม่ซื่อตรงต่อนาง"  คริสเตียนบางคนมีความคิดหละหลวมในเรื่องชีวิตการสมรสและในเรื่องระยะเวลาของการใช้ชีวิตในการสมรส  
จากความสนใจของสมาชิกของคริสตจักรที่แต่งงานกับชาวโลก  และจากการที่คริสเตียนทำการหย่าร้างกันในคริสตจักรเราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้
    (4) ปล่อยตัวสนุกสนานแบบชาวโลก  คริสเตียนที่ปล่อยตัวสนุกสนานแบบชาวโลก  
สร้างความประทับใจที่ผิดให้กับคนในโลกเกี่ยวกับศาสนาคริสต์  เพราะการที่คริสเตียนไปปรากฎตัวตามสถานที่บางแห่งซึ่งเขาไม่ควรไป  
หรือทำในสิ่งที่เขาไม่ควรทำต่อไปนี้  เป็นการสนุกสนานที่พวกคริสเตียนไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง  
การเต้นรำ (ฆะลาเตีย 5.19-21)  ผู้หญิงผู้ชายอาบน้ำปนกัน (1ติโมเธียว 2.9-10)  
การดื่มเหล้าเพื่อสังคม  สุภาษิต 23.20 "อย่ามั่วสุมกับนักเสพเหล้าองุ่น, 
หรือกับคนกินเนื้อเติบ"  การพนัน ฆะลาเตีย 5.21 "การอิจฉากัน, การเมาเหล้า, 
การเล่นเป็นพาลเกเรต่าง ๆ, และการอื่น ๆ เช่นนั้นอีก 
เหมือนข้าพเจ้าได้ว่าแก่ท่านทั้งหลายแต่ก่อน  
บัดนี้ข้าพเจ้าจึงว่าแก่ท่านอีกเหมือนกันว่า  
คนเหล่านั้นที่กระทำการเช่นนั้นจะรับส่วนในแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้"
    ก่อนที่จะร่วมสนุกสนานด้วยสิ่งใดก็ตาม  
คริสเตียนควรตอบคำถามต่อไปนี้จะช่วยให้คริสเตียนตัดสินอะไรถูกอะไรผิด
    ก) พระคัมภีร์ว่าอย่างไรเรื่องนี้?
    ข) พระเยซูทำอย่างไร?
    ค) 
ถ้าพระเยซูมาพบสิ่งกำลังทำอยู่นี้จะเป็นอย่างไร?
    ง) สิ่งนี้จะทำลายอิทธิพลในการเป็นคริสเตียนหรือไม่?
    จ) 
สิ่งนี้จะทำลายจิตวิญญาณและร่างกายหรือเปล่า?
    ฉ) 
สิ่งนี้สิ้นเปลืองเวลาและเงินโดยใช่เหตุหรือเปล่า?
    ช) จะทำให้ผู้อื่นสะดุดหรือเปล่า?
    ซ) ในฐานะที่เป็นคริสเตียนมีส่วนร่วมได้หรือไม่?
    แทนที่เราจะร่วมกระทำสิ่งที่ผิดทั้ง ๆ 
ที่รู้ว่ามันผิด  ทำไมเราไม่กระทำสิ่งที่ถูกแน่ ๆ และบริสุทธิ์  เช่น 
การออกไปเที่ยวตามสวนสาธารณะ, การขึ้นภูเขา, ไปเที่ยวน้ำตก, ตกปลา, ล่าสัตว์, 
เล่นกีฬาต่าง ๆ, ฟังดนตรีที่ดี, อ่านหนังสือที่ดี, ศิลปะ, การร้องเพลงร่วมกัน ฯลฯ
    สรุป  ไม่ต้องออกกำลังมากเพื่อจะเป็นเหมือนชาวโลก  
แต่ที่จะเป็นเหมือนพระเยซูเราต้องทิ้งโลกไว้เบื้องหลัง  
เราจะรับพระเยซูและจะแบกโลกไว้ก็ไม่ได้
ตอบคำถาม คลิกที่นี่  https://docs.google.com/forms/d/1Tm3v9HKzswFIeKfEPv7JSINKR9YcIH-tZQpJAImEGnw/viewform 
